ราคาน้ำยาแอร์ และปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาในปัจจุบัน

ทำไมน้ำยาแอร์ทุกชนิด จึงมีการปรับราคาขึ้นอย่างมากในช่วงนี้!?!

มีลูกค้าหลายๆราย สอบถามกันเข้ามามากในช่วงนี้ ว่าทำไมราคาน้ำยาแอร์ ถึงมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก เกิดอะไรขึ้น!?! แล้วราคาจะแพงไปอย่างนี้อีกนานมั๊ย วันนี้แอดมินมีคำอธิบายมาให้ดังนี้

น้ำยาแอร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากโรงงานผลิตที่ประเทศจีน ซึ่งมีสารตั้งต้นอย่าง Hydrofluoric Acid (HF) และ Trichloroethylene (TCE) เป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งถ้าย้อนไปดูกราฟราคาในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นว่าราคาของ HF มีการปรับเพิ่มขึ้นมาประมาณ 20% ซึ่งแอดมินมองว่าปัจจัยเรื่องต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็วขนาดนี้

นอกเหนือจากเรื่องราคาต้นทุนของวัตถุดิบแล้ว ปัจจัยที่สำคัญต่อมาก็จะเป็นเรื่องของการผลิต ซึ่งต้องใช้พลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าตอนนี้ประเทศจีนเองกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤติทางด้านพลังงาน อันเนื่องมาจากการขาดแคลนถ่านหินที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า (โดยประเทศจีนพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินถึง 72% จากแหล่งพลังงานทั้งหมด) การเพิ่มขึ้นของราคาถ่านหินจากช่วงก่อนโควิดอยู่ที่ 100 USD ต่อตัน มาอยู่ที่ราคาปัจจุบัน 240 USD ต่อตัน ทำให้ต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าในจีนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว  ทำให้โรงงานหลายแห่งประสบปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอ, ขาดทุน และจำเป็นต้องมีการปรับลดกำลังการผลิตลง หรือหยุดการผลิต!!

กราฟราคา Hydrofluoric acid
กราฟแสดงราคาถ่านหิน Coal

ปัจจัยที่สำคัญอีกตัวหนึ่งก็คือค่าขนส่งระหว่างประเทศ และในประเทศ เป็นที่ทราบกันดีว่าตั้งแต่ต้นปี มาจนถึงปัจจุบัน การขนส่งระหว่างประเทศมีปัญหาทั้งในเรื่องของตู้สินค้าที่มีไม่เพียงพอ, ค่าระวางเรือที่มีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยดัชนีค่าระวางเรือ (หรือ BDI index) ปรับเพิ่มขึ้นจากประมาณ 1,200 จุด มาอยู่ที่จุดสูงสุด 5,600 จุด เมื่อเดือน ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา ประกอบกับ ราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นแทบทุกวัน ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการขนส่งภายในประเทศอีกด้วย

และปัจจัยสุดท้าย ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือ ค่าเงินบาทของไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญสำหรับการนำเข้า โดยค่าเงินบาทมีการอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง จากช่วงต้นปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 30 บาท/USD มาแตะที่เกือบ 34 บาท/USD ในช่วงต้นเดือน ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา

กราฟแสดงดัชนีค่าระวางเรือ (BDI Index)
กราฟแสดงดัชนีค่าระวางเรือ (BDI Index)
กราฟแสดงอัตราแลกเปลี่ยน
กราฟแสดงอัตราแลกเปลี่ยน

จากปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อต้นทุน และราคาของน้ำยาแอร์ เป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้จากกราฟแสดงราคาน้ำยาแอร์ R22 และ R134a มีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา เพียงแค่ภายในระยะเวลา 1 เดือนกว่าๆ ราคาน้ำยาแอร์ทั้ง 2 ชนิดนี้ ปรับเพิ่มขึ้นมา 50 -70 % และยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ราคาน้ำยาแอร์ R134a
กราฟแสดงราคาน้ำยาแอร์ R22

แล้วราคาจะแพงอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน?

จากข้อมูลปัจจัยต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำยาแอร์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ทางบริษัท TEG มองว่าราคาน้ำยาแอร์ น่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นต่อไปอีก ภายใน 3-6 เดือนข้างหน้า จนกว่าวิกฤติต่างๆจะคลี่คลายลง เพราะประเทศจีนและทั่วโลกกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจำเป็นต้องเร่งสำรองถ่านหินเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าอีกเป็นปริมาณมหาศาล และจะส่งผลให้วิกฤติการขาดแคลนพลังงานในประเทศจีนจะยังคงอยู่ไปจนถึงปีหน้า ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้นี้ เราคงจะไม่ได้เห็นราคาน้ำยาแอร์ ราคาถูก เหมือนอย่างในช่วงที่ผ่านมาอีกต่อไป